ในหลายกรณีภาษากายเป็นสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุม ไม่ว่าจะเป็นสีหน้าและท่าทางที่แสดงออกต่อเหตุการณ์ต่างๆ และภาพนี้บอกอะไรเราได้หลายอย่าง
ภาพนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดที่อเมริกาที่เรียกว่า 9/11 กลุ่มผู้ก่อการร้ายได้บังคับเครื่องบินให้มาชนตึก world trade center นักข่าวและช่างกล้องที่อยู่รอบๆก็ได้ถ่ายภาพสีหน้าและท่าทางของผู้คนรอบๆที่เห็นเหตุการณ์
ผู้ชายในเสื้อสีเทาด้านซ้ายและผู้หญิงในชุดสูทมีภาษากายที่เหมือนกัน คือ การใช้มือขึ้นมาปิดปาก (Hand over mouth) แต่สีหน้าจะไม่เหมือนกัน คุณผู้หญิงถ้าสังเกตที่ตาจะพบว่าตาโตเพราะเปลือกตาบนและล่างนั้นเปิดกว้าง จะทำให้เราเห็นม่านตาที่เป็นวงกลมครบทั้งขอบบนและล่าง คุณผู้หญิงจึงอยู่ในสภาวะที่กำลังตกใจ (Suprise)
ส่วนผู้ชายเสื้อเทาจะมีอารมณ์ตกใจในระดับที่น้อยกว่า (เดาว่าอาจจะพ้นระยะอารมณ์ที่ตกใจไปแล้ว เนื่องจากอารมณ์ตกใจจะมาเร็วและไปเร็ว) แต่จะพบสีหน้าที่ดูเคร่งเครียดจากคิ้วและหน้าฝากที่ดูหดเกร็ง (Central fore head contraction)
ส่วนคุณผู้หญิงในชุดสีขาวก็มีลักษณะของตาที่ตกใจเช่นกันแต่ไม่มากเท่ากับผู้หญิงคนแรกและมีภาษากายที่คลาสสิคมากๆของอารมณ์ตกใจ คือ อ้าปาก (Jaw drop) ซึ่งเป็นลักษณะที่จำเพาะ (Unique) ของสีหน้าที่อยู่ในอารมณ์ตกใจ
ภาษากายเป็นสิ่งที่ปิดไม่มิด และถ้าภาษากายนั้นสัมพันธ์ไปกับอารมณ์ที่บังเอิญเกิดขึ้น เราจะพบว่าร่างกายจะเกิดการแสดงออกเองโดยที่เจ้าตัวไม่ทันที่จะระลึกได้ทันและไม่ทันที่จะบังคับ ซึ่งเป็นล้วนผลมาจากการทำงานของสมองส่วนกลางและส่วนท้าย
ใครกำลังรู้สึกอะไร ภาษากายบ่งบอกได้ถ้าเราถอดรหัสเป็น
ขอให้สุกกับการเรียนรู้นะครับ
ทพ.อภิชาติ ลีนานุรักษ์ (หมอมด)
บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น สถานการณ์อ้างอิงเพื่อใช้ในการสอนจะคัดเลือกมาจากหลายวงการ เช่น นักการเมือง นักแสดง นักร้อง นักกีฬา นักธุรกิจ และบุคคลสาธารณะที่ปรากฎในสื่อสาธารณะ เช่น ข่าว รายการโทรทัศน์ งานแถลงข่าว สัมภาษณ์ รายการในยูทูป (youtube)ทั้งในและต่างประเทศ การตีความและอธิบายภาษากายทุกอย่างเพื่อการเรียนรู้และแสดงผ่านมุมมองของผม ว่าผมมีความเห็นอย่างไรต่อสถานการณ์เหล่านั้นเท่านั้น และไม่มีจุดประสงค์เพื่อหวังประโยชน์ด้านการเมือง หรือเพื่อละเมิดกับบุคคลใด กลุ่มการเมือง หรือ ศาสนาใด ทั้งสิ้น
