กันยายน 3, 2021

ถอดรหัสภาษากาย เคสที่ 46 : ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปร่วมงานราชาภิเษกของ สมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น

เนื่องจากคุณประยุทธ์ จัทร์โอชา เติบโตมาจากสายนักการทหาร ทำให้อาจไม่คุ้นเคยการเข้าสังคมโดยเฉพาะพิธีการต่างประเทศ ทำให้จะพบภาษากายที่ขาดๆเกินๆได้บ่อย เพราะหลายอย่างไม่ใช่ธรรมเนียมไทย

วีดิโอคุณประยุทธ์ จันทร์โอชาไปร่วมงานราชาภิเษกของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น จึงเป็นเสมือนบทเรียนเพื่อมาเรียนรู้ร่วมกันถึงความสำคัญของการระวังภาษากายของตัวเอง เพราะมันส่งผลต่อภาพลักษณ์ทั้งส่วนตัวและส่วนร่วม

นาที 9:45 เป็นจังหวะจับมือทักทาย

เนื่องจากคุณประยุทธ์ยืนห่างจากอีกฝ่ายมากเกินไป ทำให้ต้องโน้มตัวเข้าหาเพื่อจับมือ ทำให้ตนเองอยู่ใน Beta Posture แต่สมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นยืนตัวตรง จากภาพจึงเห็นเลยว่าความสง่าราศีของคุณประยุทธ์จึงดูน้อยกว่าสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นทั้งที่คุณประยุทธ์สูงกว่าบึกบึนกว่า(สไตล์อดีตทหาร)

การยืนอยู่ห่างเกินไปของคุณประยุทธ์อธิบายได้ด้วยทฤษฐี Interpersonal distance (Ref:Edward T. Hall) คุณประยุทธ์อาจรู้สึกประหม่า และไม่ปลอดภัยเมื่อจะต้องเผชิญหน้ากับสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นทำให้ไม่อยากเข้าไปใกล้เกินระยะที่ตนรู้สึกว่าปลอดภัย (safty zone)

มารยาทในการจับมืออีกอย่างหนึ่งคือไม่ควรรีบปล่อยมือ คือจับมือค้างไว้สัก 2-3 วินาทีเป็นอย่างน้อยโดยเฉพาะในสถานการณ์เช่นนี้ แต่จากวีดิโอคุณประยุทธ์จะพยายามจะชักมือกลับทันทีหลังจับมือ แต่อีกฝ่ายยังคงกำมือไว้แน่นจึงยังได้จับต่อราว 2 วินาที จึงเป็นไปได้ว่าคุณประยุทธ์รู้สึกกลัวและอยากรีบออกจากสถานการณ์นั้น (Flee) จึงอาจประเมินได้ว่าเขาดูตื่นเต้นน่าดู

จับมือกับจักรพรรดินีมิชิโกะ นาที 10:02

จังหวะนี้คุณประยุทธ์ถือว่าผิดพลาดอยู่สองประการ

ประการแรก คุณประยุทธ์ทั้งโค้งคำนับและจับมือในเวลาเดียวกัน คือผสมปนเปไปจนแลดูประดักประเดิกเป็นอย่างมาก ในจังหวะนี้ผมคิดว่าคุณประยุทธ์ไม่จำเป็นต้องโค้งคำนับแล้ว เพราะอีกฝ่ายก็ยืนมือมาเพื่อจะจับมือแต่แรกเริ่ม การที่คุณประยุทธ์สับสนทั้งการโค้งคำนับและจับมือจนตีรวนกันมั่วอาจเพราะตื่นเต้นมากจนสมองไม่สามารถโฟกัสว่าควรทำอะไรเมื่อใด แต่ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าคุณประยุทธ์ไม่คุ้นเคยกับพิธีการต่างประเทศ การรู้สึกตื่นเต้นจึงมีเหตุผล

การจับมือที่ถูกต้องจะต้องมองไปหน้าฝ่ายตรงข้ามและควรโน้มตัว (Lean forward) เล็กน้อย ไม่ใช่ทั้งก้มโค้งคำนับบวกกับจับมือแบบนี้

ประการที่สอง คุณประยุทธ์ยืนในระยะไกลเกินไป ซึ่งนอกจากจะต้องก้มมาด้านหน้าเพื่อจับมือ เขายังจับมือได้ไม่เต็มมือ (loosely hand shake) อาจทำให้ดู unprofessional และถ้าดูจากภาพนิ่งดูเหมือนคุณประยุทธ์ยืนมือไปให้อีกฝ่ายจับมากกว่าที่จะเรียกว่าการจับมือทักทายตามหลักสากล (Hand shake) ทำให้กลายเป็นการจับนิ้วไปเสีย (Finger tip grab)

คนระดับผู้นำถ้าจับมือไม่มั่นคงหรือไม่เหมาะสม จะทำให้ดูปวกเปียก ไร้ซึ่งสง่าราศี และขาดความน่าเชื่อถือ เพราะฉะนั้นท่านใดที่อยู่ในตำแหน่งของหัวหน้า หรือ ผู้นำควรจะต้องเรียนรู้วิธีการจับมือที่ถูกต้องและเหมาะสม และควรต้องฝึกฝนจนคล่องโดยเฉพาะคนไทยเราที่ไม่มีวัฒนธรรมการจับมือ

นาที 10:09 – 10:14

หลังจากการทักทายจับมือคุณประยุทธ์เดินฉับๆอย่างรวดเร็วนำหน้าภรรยาโดยไม่รีรอ ทั้งที่เป็นสถานที่ที่กว้างไม่ได้เป็นทางเดินแคบเช่น Hall way ตามตึก การเดินนำหน้าแบบนี้แสดงลักษณะ Authority , Dominant , Manipulate , Careless ถ้าในระดับผู้นำโลกเราจะพบ Donale trump อีกคนที่ชอบเดินนำหน้าและไม่สนใจภรรยา ซึ่งอาจะสะท้อนได้ว่าตนไม่ได้ให้เกียรติภรรยาสักเท่าไหร่ จะเรียกว่าไม่ค่อยแคร์เลยก็ว่าได้ ทั้งนี้อีกประเด็นที่ต้องพิจารณาคือเป็น baseline characteristic ของคุณประยุทธ์หรือเปล่า ? ทั้งนี้สองอย่างนี้อาจไม่สามารถแยกกันอย่างเด็ดขาดเพราะ baseline ก็อาจมาจากความรู้สึกข้างในที่กระทำสะสมมานานจนเป็นนิสัย (Habit)

แถมอีกนิดหนึ่งจะพบประยุทธ์เม้มริมฝีปาก (Inward Lip roll) คล้ายๆกำลังเลียปาก จะเป็นภาษากายแสดงถึงความเครียดและกำลังกดอารมณ์เชิงลบ (Concealing Strong negative emotion)

ผมเชื่อว่าทางสำนักนายกฯและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ติวเข้มท่านนายกมาอย่างดี แต่ท่านน่าจะตื่นเต้นมากไปหน่อยก็เลยออกมาเสียฟอร์มไปเล็กน้อยในบางจังหวะ ทั้งนี้ท่านใดที่เป็นผู้นำองค์กร หรือ ตัวแทนในพิธีการสำคัญควรจะต้องติวเข้มและทำการบ้านมาให้ดีเสมอ โดยเฉพาะพิธีการที่คนไทยเราไม่คุ้นเคย

ขอให้สนุกกับการเรียนรู้

ทพ.อภิชาติ ลีนานุรักษ์ (หมอมด)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น สถานการณ์อ้างอิงเพื่อใช้ในการสอนจะคัดเลือกมาจากหลายวงการ เช่น นักการเมือง นักแสดง นักร้อง นักกีฬา นักธุรกิจ และบุคคลสาธารณะที่ปรากฎในสื่อสาธารณะ เช่น ข่าว รายการโทรทัศน์ งานแถลงข่าว สัมภาษณ์ รายการในยูทูป (youtube)ทั้งในและต่างประเทศ การตีความและอธิบายภาษากายทุกอย่างเพื่อการเรียนรู้และแสดงผ่านมุมมองของผม ว่าผมมีความเห็นอย่างไรต่อสถานการณ์เหล่านั้นเท่านั้น และไม่มีจุดประสงค์เพื่อหวังประโยชน์ด้านการเมือง หรือเพื่อละเมิดกับบุคคลใด กลุ่มการเมือง หรือ ศาสนาใด ทั้งสิ้น

เกี่ยวกับผู้เขียน

You may also like...

1 Response

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *