ทุกคนรู้จักคุณม้า อรนภา ดีเพราะเขาเป็นพิธีกรที่คุ้นหน้าคุ้นตาและอยู่ในวงการมายาวนาน ถือว่าเป็นคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในแง่อาชีพการงาน แต่ทั้งนี้ในแง่ภาพพจน์นั้นเป็นอีกเรื่อง คุณม้า อรนภา มีบุคลิกที่ชอบใช้คำพูดสไตล์ Bully ผู้อื่นบ่อยๆซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับ(แม้ว่าจะอ้างว่าเป็นการทำงาน) และกล้าที่จะโต้เถียงคนอื่นด้วยภาษาบ้านๆชนิดที่นักแสดงส่วนใหญ่ที่มีเกียรติจะไม่นิยมปฎิบัติตาม
ช่วงเดือนสิงหาคม 2563 มีเหตุการณ์ที่ทำให้คุณม้า อรนภา ต้องแทบจะเรียกว่าถูกทำให้ออกจากวงการ คือ คุณม้าไป Comment กลุ่มเด็กที่ออกมาชุมนุมไล่รัฐบาลว่า ไล่ให้ไปแหกอวัยวะเพศที่บ้าน และตบท้ายด่าว่าเป็นเด็กเปรต ทำให้เกิดกระแสแบนคุณม้า อรนภา อย่างใหญ่โตและรายการทีวีที่คุณม้าเป็นพิธีกรก็ปลดคุณม้าออกในทุกรายการ เรียกว่าถูกเด็กๆที่คุณม้าด่า กลับมาถล่มมากมายไม่หยุดหย่อนกลายเป็นข่าวดังระดับประเทศและคุณม้าก็สูญเสียอาชีพกลายเป็นคนไม่มีรายได้
น่าจะเป็นเหตุการณ์ที่แย่ที่สุดครั้งหนึ่งของคุณม้า อรนภา แต่เธอก็พยายามอยู่อย่างสงบ ไม่โต้ตอบ เน้นปฎิบัติธรรมและหารายได้ขายห่อหมกเอย อะไรเอยไป และจากที่หายไปนาน จู่ๆก็ก็ได้มาโผล่ที่รายการของคุณมดดำในวันที่ 10 มิถุนายน 2546 และสัมภาษณ์ชีวิตหลังถูกดราม่าครั้งใหญ่นั้น
ภาษากายคือข้อมูลที่สื่อสารออกมาจากมนุษย์ทุกอย่างนอกเหนือจากคำพูดทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว จึงเป็นชุดของข้อมูลสำคัญที่สามารถใช้ตีความว่าส่วนตัวเราจะให้ระดับความความเชื่อถือกับเหตุการณ์ที่ปรากฎอย่างไรเท่านั้น การวิเคราะห์ภาษากายจึงไม่ได้มีไว้เพื่อตัดสินว่าใครโกหกหรือหลอกลวง
ทพ.อภิชาติ ลีนานุรักษ์
เนื่องจากวีดิโอถูกถ่ายในช่วงโควิดระบาดทำให้ไม่สามารถอ่าน Facial expression ได้ แต่ท่าทางและภาษากายอื่น (Gesture) ยังพอมีอะไรให้ศึกษา ในช่วงนาที 37:17 – 37:32 จะเห็น Cluster of Body Language
ช่วงนาที 37:17 – 37:32
พิธีกรถาม : อย่างงี้ทำใจยังไง (การต้องออกจากงานและไม่มีรายได้)
ม้า อรนภา : ไม่เห็นต้องทำใจอะไรเลย
พิธีกรถาม : ไม่เสียดายหรือแม่
ม้า อรนภา : ไม่เสีย……เสียดายไหม(*)…… เสียดายตังค์
มดดำ : แต่ก่อนได้เงินเดือนเป็นล้าน (**)
ม้า อรนภา : เสียดายตังค์
สังเกตุในจังหวะ (*) ที่คุณม้าทวนคำถามว่า “เสียดายไหม” คุณม้าตาจะดูโตขึ้น (upper lid raiser) เป็นผลจากกล้ามเนื้อ Levator Palpebrae Superiolis แต่จะไม่สามาถสังเกตม่านตาได้เพราะคุณม้าใส่ contact lens ร่วมกับคุณม้าเด้งตัวขึ้นจากที่นั่งขยับไปทางซ้าย (Bounce to the left side) การขยับตัวเด้งขึ้นจากที่นั่งเกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อรอบทวานหนัก (Anal Sphincter) และกล้ามเนื้อต้นขา (buttocks muscles – gluteus maximus, gluteus medius, etc.) การที่คนเราเปลี่ยนท่านั่งโดยเฉพาะการเด้งตัวขึ้นนี้จะเกิดเพราะมีอารมณ์บางอย่างเกิดขึ้นทันทีทันควัน (High intensity of emotion) เช่น ตกใจ โกรธ ตื่นเต้น ดีใจ โดยเฉพาะความกลัว
จุดที่ควรสังเกตคือการเด้งก้นไปทางซ้ายซึ่งเป็นทิศทางตรงกันข้ามกับพิธีกรเป็นกลไกหนี หรือ การป้องกันตนเอง (Defensive / Flee) จากจิตใต้สำนัก (Unconcious mind) เป็นเพราะจิตใต้สำนึกเกิดสภาวะที่ตื่นกลัว เป็นตัวอย่างที่ดีให้เราได้ศึกษาความเชื่อมโยงสัมพันธ์ (Synchonizng) ของร่างกายและความรู้สึก (Gesture and Emotions) ภาษากายสองส่วนนี้ (ที่ตาและการเคลื่อนไหว)แสดงความตื่นเต้น กังวล และ กลัว (Anxiety and fear)
คุณมดดำพูดว่า ได้เงินเดือนเป็นล้าน ในจังหวะ (*) คุณม้าจะเอามือขวาไปลูบๆเกาๆหัวเข่าตัวเองในจังหวะนั้นพอดิบพอดี การเอามือลูบหน้าตักหรือเข่าเป็นภาษากายกลุ่มปลอบปะโลม (Pacifying behavior) จะเกิดเมื่อตื่นเต้น (Anxiety) และร่างกายจะตอบสนองด้วยการปลอบตนเองอัตโนมัติ ยกตัวอย่าง บางคนถูกแซวเรื่องแฟนและเกิดเขินอาย ก็มักจะใช้มือลูบหน้าตักหรือหัวเข่า แต่การจะอ่านให้แม่นจะต้องดูภาษากายอื่นร่วมด้วยเช่น หน้าแดง (Blushing) หรือหลบตา (Diminished eye contact) ยิ่งมีภาษากายให้สังเกตมากเท่าไหร่จะวิเคราะห์ยิ่งแม่นขึ้นเท่านั้น
จากภาษากายเราพอจะเห็นว่าคุณม้า อรนภา มีอารมณ์อะไรเกิดขึ้นทันทีเมื่อต้องตอบถึงว่าตนเองเสียดายไหม ? ที่ไม่ได้มีรายได้และไม่ได้ทำงานเหมือนเดิม (ตาโต , ตัวขยับเด้งขึ้นจากที่นั่ง) แต่ผมอ่านสีหน้าไม่ได้เพราะ mask ทำให้ไม่สามารถอ่านสีหน้า (Facial expression) ณ วินาทีนั้น ถ้าจะให้เดาอาจจะเป็นอารมณ์โกรธและตื่นเต้น (Subtle anger & Anxiety) แต่จิตใต้สำนัก (Unconcious mind) ก็พยายามกลั้นอารมณ์ไว้ซึ่งสังเกตุได้จากการที่มีภาษากายของปลอบปละโลมในวินาทีถัดมา
ทั้งนี้การอ่านภาษากายของการเอามือมาลูบหัวเข่าเพียงลำพังอาจตีความผิดได้ มันเป็นไปได้เสมอว่าอาจจะกำลังคัน หรือ เอามือมาปิดเพราะใส่กระโปรงสั้น เพราะฉะนั้นจำเป็นจะต้องอ่านเป็นกลุ่มก้อนของภาษากาย (Cluster) และพิจารณาบริบทด้วยโดยเฉพาะการตอบประเด็นสำคัญ
ช่วงนาที 37:32 ตอนที่อธิบายว่าทำไมเสียดายเงินแต่ไม่เสียใจ ผมอยากให้สังเกตุท่านั่งของคุณม้า เขาจะนั่งตรงกลางเบาะและใช้มือมายันทั้งด้านซ้ายขวาของลำตัวและแขนแนวลำตัว เป็นท่านั่งลักษณะ Beta gesture แสดงถึงความมั่นใจที่ต่ำ (Low confidentility) เพราะจิตใต้สึนึกรู้สึกไม่ปลอดภัยทำให้ใช้มือในการยันตัวเองหรือหาที่วางเพื่อให้ตนเองรู้สึกปลอดภัย และสังเกตการนั่งที่หัวเข่าชี้ออกทางพิธีกร ลำตัวช่วงบนเอียนไปทางด้านและลำตัวด้านล่างทิ้งออกห่าง ยิ่งบ่งบอกถึงความไม่ปลอดภัยและความกลัว (Fear)
จากการถอดรหัสภาษากายเราสามารถสรุปได้ว่า
- คุณม้าอรนภาสึกรู้เสียดายเงินและเสียดายชีวิตการทำงานอย่างมาก
- ตอนตอบคำถามเกี่ยวกับเงินและงาน ภาษากายแสดงลักษณะของความตื่นเต้นและกลัว (Anxiety & Fear)
แม้ว่าคุณม้าอรนภาจะไม่ได้กล่าวขอโทษ หรือ แสดงความเสียใจต่อสิ่งที่เธอได้ใช้คำพูดดูหมิ่นกลุ่มเยาวชนที่ออกมาแสดงสิทธิและเสรีภาพ แต่จากผลกระทบที่ตามมาถึงว่าหนักหนามากสำหรับคุณม้าอรนภา ไม่ว่าจะตกงานและไม่มีรายได้ รวมถึงความเครียดและความเสียใจ
ถ้ามองอีกมุมก็ถือว่าเป็นบทเรียนที่มีค่าต่อชีวิตของคุณม้าอรนภาให้คิดก่อนทำเสมอ
ขอให้สนุกกับการเรียนรู้นะครับ
ทพ.อภิชาติ ลีนานุรักษ์ (หมอมด)
บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น สถานการณ์อ้างอิงเพื่อใช้ในการสอนจะคัดเลือกมาจากหลายวงการ เช่น นักการเมือง นักแสดง นักร้อง นักกีฬา นักธุรกิจ และบุคคลสาธารณะที่ปรากฎในสื่อสาธารณะ เช่น ข่าว รายการโทรทัศน์ งานแถลงข่าว สัมภาษณ์ รายการในยูทูป (youtube)ทั้งในและต่างประเทศ การตีความและอธิบายภาษากายทุกอย่างเพื่อการเรียนรู้และแสดงผ่านมุมมองของผม ว่าผมมีความเห็นอย่างไรต่อสถานการณ์เหล่านั้นเท่านั้น และไม่มีจุดประสงค์เพื่อหวังประโยชน์ด้านการเมือง หรือเพื่อละเมิดกับบุคคลใด กลุ่มการเมือง หรือ ศาสนาใด ทั้งสิ้น