บิล คลินตั้น เป็นหนึ่งในประธานาธิบดีที่มีชื่อเสียงมากที่สุดท่านหนึ่งของอเมริกา แต่เขาก็มีเรื่องอื้อฉาวซึ่งเป็นกรณีมีพฤติกรรมเชิงชู้สาวกับเจ้าหน้าที่ในทำเนียบขาว ชื่อ โมนิก้า ลูวินสกี้ ช่วงปี 1998 (Timeline ของเรื่องราวทั้งหมด ลิ้ง)
ท้ายที่สุด บิล คลินตั้น ก็ออกมาสารภาพว่าเขามีพฤติกรรมเชิงชู้สาวจริง และขอโทษที่ทำให้คนอเมริกาต้องเสียใจในประเด็นนั้น
บทเรียนนี้ผมได้นำแถลงการของนาย บิล คลินตั้น ในช่วงต้นของ timeline ของเหตุการนี้ซึ่งเป็นก่อนที่เขาจะสารภาพผิด เป็นช่วงเวลาที่ บิล คลินตั้น ยังปากแข็งและยืนยันว่าข่าวลือทั้งหลายล้วนไร้สาระและไม่เป็นความจริง
และเพื่อที่ให้ชัดเจนเขาจึงตัดสินใจแถลงการ (โกหก) ดังคลิปที่ผมแนบไว้บนสุด
เราจะได้เห็นภาษากายของคนระดับประธานาธิบดีเวลาโกหก รวมถึงลักษณะการใช้คำพูดสไตล์นายบิล คลินตั้น โดยผมจะแบ่งออกเป็นสามช่วงดังต่อไปนี้
ช่วงที่ 1 ก่อนเริ่มพูด
0:07 ก่อนที่จะเริ่มแถลงข่าว บิล คลินั้น ทำการเม้มปาก (inward lip roll ) การเม้มปากเป็นภาษากายที่เกิดโดยปราศจากการบังคับโดยเจ้าตัว (Subconcious) จะสัมพันธ์กับการกลั้นอารมณ์ลบ (Conceling strong negative emotion) เช่น การกลั้นอารมณ์เสียใจ ความเครียด ความกลัว หรือความโกรธ เป็นภาษากายที่ลุงพลแสดงออกบ่อย (ผมวิเคราะห์ลุงพลไว้ละเอียดในเคสที่ 31 จับผิดลุงพล : สัมภาษณ์ที่หมู่บ้านในรายการโหนกระแส)
ภาษากายโดยเฉพาะ inward lip roll นี้เป็นภาษาสากลชนิดหนึ่ง ที่ไม่ขึ้นกับเชื้อชาติ วัฒนธรรม ศาสนา หรือ ภาษา เราจึงเห็นภาษากายที่เหมือนกันของลุงพล และ บิล คลินตั้น เพราะอยู่ภายใต้สถานการณ์เดียวกัน
ช่วงที่ 2 พูดเกริ่นนำ
ต่อไปเราจะเห็นกลุ่มก้อนของภาษากาย (Cluster of Body language) มากมาย
0:18 ถึง 0:25
Bill Clinton : “(1)Now, I have to go back to work on my State of the Union speech (2), and I worked (3)on it until pretty late last night (4).
บิล คลินตั้น : “(1)เดี๋ยวผมจะต้องขอตัวกลับไปทำงานต่อ(2) (ร่าง Speech ที่จะพูดใน State of the Union) และผมทำงาน(3)นี้จนดึกดื่นเลยเมื่อคืน(4) “
ภาษากายที่พบได้แก่
- ก้มหน้ามองต่ำ (Diminished eye contact) เป็นกลไกที่สั่งงานมาจากสมองส่วนกลางซึ่งเป็นส่วนที่ควบคุมอารมณ์และความรู้สึก สัมพันธ์กับความกลัว ความไม่มั่นใจ หรือประหม่า พบบ่อยในกรณีโกหก ปกปิด หรือทำความผิด
- เม้มปาก ร่วมกับ มองต่ำ (inward lip roll & Diminished eye contact) เม้มปากแสดงถึงการพยายามกดหรือซ่อมอารมณ์ลบ (Concealing strong negative emotion) ดังที่กล่าวไว้
- ยิ้มนอกบริบท (Smiling out of context) การยิ้มในบริบทที่ไม่ได้จำเป็นต้องยิ้มจะต้องตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนเสมอ ว่า ณ เวลานั้นเขายิ้มทำไมเมื่อพูดถึงว่าตนเองมีภาระงานที่จะต้องไปทำต่อ
- เม้มปาก ร่วมกับ ก้ามหน้ามองต่ำ (inward lip roll & Diminished eye contact) ในจังหวะ (4) นี้ระดับของอารมณ์ของคุณ บิลคลินตั้นจะพุ่งสูงขึ้น (High intensity of Emotion) เพราะภาษากายจะชัดเจนมาก และนานกว่า (2)
อยากให้สังเกตุประโยคที่พูด นาย บิล คลินตั้น กำลังอ้างเรื่องงาน อ้างว่าตนเองกำลังยุ่งและจะขอตัวกลับไปทำงาน นายคลินตั้นไม่อยากให้เวลากับการแถลงข่าวในส่วนต่อไป เขาอยากทำให้จบเร็วที่สุดและรีบหนี
ช่วงที่ 3 ก่อนเข้าสู่ประเด็น
นาที 0:26 – 0:31
Bill Clinton : But I want to say one thing to the American people(*). I want you to listen to me. I’m going to say this again.
บิล คลินตั้น : แต่ผมอยากจะกล่าวอย่างหนึ่งกับชาวอเมริกัน(*) ผมอยากให้คุณฟังผม และผมจะพูดมันอีกครั้ง
จังหวะนี้จะพบมุมปากด้านซ้ายของเขายกสูงขึ้น เป็นลักษณะของสีหน้าที่ปรากฎในเสี้ยววินาที (Micro expression) ของ Contempt หรือการแสดงถึงอารมณ์ดูถูก เหยียดหยาม และมักจะมีส่วนผสมของอารมณ์เกลียดชังร่วมด้วย ส่วนการวิเคราะห์ (Analysis) ผมจะกล่าวในตอนท้ายของบทความ
ในส่วนของภาษาพูด ประโยคที่เขาใช้เป็นการเน้นย้ำ (Emphasize) – ฟังฉันให้ดีนะ
ช่วงที่ 4 ตอบประเด็นการมีเพศสัมพันธ์
นาที 0:32 ถึง 0:43 เป็นช่วงสำคัญ และพบ Cluster of Body language
Bill Clinton : I did not have sexual relations with that woman, Ms. Lewinsky. I never told anybody to lie, not a single time, never. These allegations are false, and I need to go back to work for the American people . Thank you.
บิล คลินตั้น : ผมไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับผู้หญิงคนนั้น คุณลูวินสกี้ ผมไม่เคยบอกใครให้โกหกแม้แต่ครั้งเดียว ไม่เคยเลย ข้อกล่าวหาทั้งหลายนี้เป็นเท็จ และผมจำเป็นจะต้องกลับไปทำงานเพื่อประชาชนอเมริกัน ขอบคุณ
- การชี้นิ้วชี้และเคลื่อนขึ้นลงท่าคล้ายสับหมูขึ้นลง (Finger point hand chop) หรือที่มักเรียกว่า ชี้นิ้วสั่ง จิกนิ้วสั่ง เป็นภาษากายของการใช้อำนาจเพื่อสั่ง (Authority) และโน้มน้าว (persuasion) อย่างก้าวร้าว (Agressively) เป็นการแสดงความมั่นใจขั้นสูง (Hyper Alpha) พบทั้งในสถานการณ์ที่พูดความจริงและหลายครั้งพบได้ในคนที่กำลังโกหก เพราะคนที่กำลังโกหกจำเป็นจะต้องทำให้อีกฝั่งเชื่อในสิ่งที่ตัวเองพูดจึงมักใช้ภาษากายที่ดุดันและแสดงความมั่นใจ ในวีดิโอนี้ตอนชี้นิ้วมือจะได้ยินเสียงทุบโพเดี้ยมดัวยดัง ตึบๆ แปลว่าจริงจังมาก และข้อสังเกตุอีกประเด็นคือ บิล คลินตั้น เป็นคนถนัดซ้าย แต่กลับใช้มือขวาในการแสดงแปลว่าในสมองกำลังตีวนและสบสนมากส่วนนี้จะสอดคล้องกับทฤษฎี Cognitive dissonance
- พบ Micro expression ของ Contempt หลังพูดถึงชื่อ โมนิก้า ลูวินสกี้ และหลังสิ้นสุดคำว่า ประชาชนอเมริกัน
- inward lip roll ตอนท้ายสุดเมื่อพูดเสร็จและหันหน้าเดินออกจากโพเดี้ยม (อันนี้มาจากมุมกล้องของคลิปคนละอัน)
ถ้าวิเคราะห์ภาษาพูด บิล คลินตั้น ไม่ได้พูดว่า I did not have sex – ผมไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ แต่กลับใช้คำว่า i did not have sexual relations – ผมไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง ลักษณะนี้เป็นการเลี่ยงบาลี หรือ การเลี่ยงที่จะตอบให้ตรงประเด็นเพื่อไม่ให้ตนเองต้องโกหก
ลองคิดดูนะครับ ว่าถ้านาย บิล คลินตั้น ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์จริงๆก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องเลี่ยงที่จะพูดตรงๆว่า ผมไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ นาย บิล คลินตั้น พื้นเพเป็นทนายเขาจึงฉลาดในการเลือกใช้คำพูด
และตอนท้ายเขาก็ตัดบทด้วยการบอกว่าจะต้องไปทำงานที่สำคัญกว่า เป็นการพูดทางอ้อมว่าข้อกล่าวหาชู้สาวเหล่านี้ไม่ได้มีสาระใดๆ งานของประชาชนสำคัญมาก
สรุปภาษากายของ บิล คลินตั้น
- บิล คลินตั้น มีความเครียดและพยายามเก็บอารมณ์ตลอดเวลา
- บิล คลินตั้น โกหกว่าตนเองไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางเพศกับ โมนิก้า ลูวินสกี้
- บิล คลินตั้น มีความรู้สึกดูถูกและเหยียดหยามต่อกรณีที่ถูกมองว่ามีเพศสัมพันธ์กับโมนิก้า ลูวินสกี้ – ความรู้สึกนี้ถามว่าคุณบิล คลินตั้น แสดงออกกับใคร ? อาจหมายถึงคนที่เฝ้าโจมตีเขา หรือ เป็นการต่อสู้กับความรู้สึกในใจ หรือ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ได้
- บิล คลินตั้น ต้องการจบการแถลงข่าวโดยเร็ว โดยการอ้างว่ามีภาระงานที่สำคัญกว่าต้องทำ
- บิล คลินตั้น ใช้บุคลิกและท่าทีที่แข็งกร้าวและดุดันเพื่อกลบเกลื่อนสิ่งที่ตนเองโกหก
ทั้งนี้ แม้ว่ากรณีอื้อฉาวจะทำให้คุณ บิล คลินตั้น เสียภาพลักษณ์ไปมาก แต่คนอเมริกันก็ไม่ได้ยกเอาเป็นประเด็นเพื่อเรียกร้องให้เขาออกจากตำแหน่งอะไรขนาดนั้น สังคมอเมริกันค่อนข้างแยกเรื่องส่วนตัวกับเรื่องส่วนรวมตราบใดที่ไม่ผิดกฎหมายบ้านเมือง ลิ้ง แต่ถ้าสิ่งนี้เกิดในประเทศเกาหลีใต้ หรือ ญี่ปุ่น ผู้มีตำแหน่งจะลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ
บทเรยนชิ้นนี้ก็ถือว่าเป็นบทเรียนที่ Classic มาก ๆ อันหนึ่งที่ผมนำมาใช้เป็นตัวอย่างเพื่อสอนหนังสือและทำ workshop และเป็น Retrospective study ที่ดีเพราะเหตุการณ์นี้พิสูจน์แล้วว่าเป็นการโกหก ซึ่งถือว่าหายากโดยเฉพาะเหตุการณ์ผู้นำระดับโลก
ขอให้สนุกกับการเรียนรู้นะครับ
อ้อ ถ้าคุณอยากดูตอนที่ บิล คลินตั้น ออกมาแถลงข่าวเพื่อสารภาพผิด ดูได้ในลิ้งนี้
ทพ.อภิชาติ ลีนานุรักษ์
บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น สถานการณ์อ้างอิงเพื่อใช้ในการสอนจะคัดเลือกมาจากหลายวงการ เช่น นักการเมือง นักแสดง นักร้อง นักกีฬา นักธุรกิจ และบุคคลสาธารณะที่ปรากฎในสื่อสาธารณะ เช่น ข่าว รายการโทรทัศน์ งานแถลงข่าว สัมภาษณ์ รายการในยูทูป (youtube)ทั้งในและต่างประเทศ การตีความและอธิบายภาษากายทุกอย่างเพื่อการเรียนรู้และแสดงผ่านมุมมองของผม ว่าผมมีความเห็นอย่างไรต่อสถานการณ์เหล่านั้นเท่านั้น และไม่มีจุดประสงค์เพื่อหวังประโยชน์ด้านการเมือง หรือเพื่อละเมิดกับบุคคลใด กลุ่มการเมือง หรือ ศาสนาใด ทั้งสิ้น
1 Response
[…] ต่อมาพูดว่า “คุณถูกต้องครับ” เขายกนิ้วชี้ข้างขวาขึ้นมา การชี้นิ้วชี้และเคลื่อนขึ้นลงท่าคล้ายสับหมูขึ้นลง (Finger point hand chop) หรือที่มักคุ้ยเคยเวลาคนเราชี้นิ้วสั่ง จิกนิ้วสั่ง ในจังหวะนี้เจ้าตัวแสดงภาษากายนี้ออกมาเพื่อย้ำในสิ่งที่ตนเองพูด เป็นภาษากายของการใช้อำนาจเพื่อสั่ง (Authority) และโน้มน้าว (persuasion) และมักจะสื่อไปในทางที่ก้าวร้าว (Agressive) เป็นการแสดงความมั่นใจขั้นสูง (Hyper Alpha) และเป็นภาษากายที่คลาสสิคของบิล คลินตั้น ตอนปฎิเสธการมีความสัมพันธ์กับโมนิก้า ลูวินสกี้ (ลิ้ง) […]