เป็นข่าวดังที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ที่มีการทลายแห่งผลิตซิลิโคนเถื่อน และใน VDO ข้างต้นก็เป็นรายการของทาง Thai PBS ที่ทำข่าวเกี่ยวกับประเด็นนี้
อธิบายในเบื้องต้น คือ ซิลิโคนเสริมจมูก ถือเป็นเครื่องมือทางการแพทย์ที่จะต้องมีการควบคุมการผลิตอย่างเคร่งครัดตามกฎหมายและต้องได้รับการรับรองจาก อย. ทำให้ผู้ผลิตบางรายอาจจะไม่อยากดำเนินการให้ถูกต้องตามกระบวนการและผลิตเองเงียบ ๆ แบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ แล้วนำออกขายเพื่อลัดขั้นตอนทางกฎหมาย ซึ่งก็มีรายหนึ่งตามข่าวที่ขายไปแล้วและถูกติดตามจับกุมในที่สุด
ผมมีโอกาสนั่งดู VDO นี้และบังเอิญพบภาษากายที่น่าสนใจของท่านพิธีกร (คุณ ธิดารัตน์ อนันตรกิตติ) ก็เลยอยากเอามาทำแชร์เป็นเคสให้ได้เรียนรู้ร่วมกัน
บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้อันเป็นประโยชน์ให้แก่ประชาชนในการเรียนรู้ศาสตร์ภาษากาย (Non-verbal communication / Body Language ) อันได้แก่ข้อมูลที่สื่อสารออกมาจากมนุษย์ทุกอย่างนอกเหนือจากคำพูดทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว (Concious / Unconcious) จึงเป็นชุดของข้อมูล (Information) ทางพฤติกรรมศาสตร์และจิตวิทยาที่สำคัญอันสามารถนำไปประยุกต์ตีความฐานะผู้สังเกตการณ์ และนำไปประเมินกับเหตุการณ์ที่ปรากฏอย่างไรเท่านั้น ไม่ได้มีไว้เพื่อตัดสินสิ่งใด
ทพ.อภิชาติ ลีนานุรักษ์
นาทีที่ 37:22 ช่วงที่พิธีกรพูดว่า “คุณหมอ (*) ตามตรงเข้าประเด็นเลยคะ คุณหมอใช้ซิลิโคน….”
ในจังหวะ (*) จะพบการ “ส่ายหน้า” ของพิธีกร อธิบายในภาษากายได้อย่างไรบ้าง ? ในใจเขารู้สึกอะไร ?
ขอเริ่มจากการส่ายหน้าก่อน ส่ายหน้าแปลว่าอะไร
ส่ายหน้าเป็นท่าทาง (Gesture) ที่มักบ่งบอกถึงการปฏิเสธ และส่วนใหญ่ของประชากรทั่วไปมักหมายความเช่นนั้น นอกจากบางประเทศกลุ่มตะวันออกกลางและบางประเทศเช่น บัลแกเรีย ที่มีความหมายตรงกันข้าม **เพราะฉะนั้นการส่ายหน้าจึงเป็นภาษากายกลุ่ม Culture dependent หรือแปรผันตามวัฒนธรรมที่บุคคลนั้นได้รับถ่ายทอดมา ไม่ถือเป็นสากลเหมือนกับสีหน้า (Facial expression)
กลับมาที่เคสเรานี้ คนไทย 100% การส่ายหน้า (Head Shake) จะหมายถึงการปฏิเสธ แล้วการที่เคสนี้แสดงภาษากายของการปฏิเสธนั้นพอจะแปลความหมายได้อย่างไรบ้าง ?
เราอาจจะวิเคราะห์และแปลออกมาเป็นภาษาพูดได้หลายอย่าง อาทิ
- คุณ(กรวิน)….คุณมันไม่น่าเลย
- คุณนี่มันแย่จัง
- คุณมันไม่ได้เรื่อง
- คุณมันไม่ดี
- ฉันผิดหวัง…กับคุณ
- ฯลฯ
การส่ายหน้านี้เป็นไปตามจิตใต้สำนึกที่ปราศจากการควบคุม เจ้าตัวไม่มีความตั้งใจใด ๆ ที่จะส่ายหน้าออกอากาศ แต่ที่ปรากฎออกมาเป็นเพราะในใจกำลังรู้สึกอะไรบางอย่าง และร่างกายการเคลื่อนไหวหรือแสดงออกมาตามธรรมชาติ
สรุป
เคสนี้เป็นตัวอย่างที่น่าเรียนรู้ถึงสภาวะของจิตใจที่มีอิทธิพลต่อภาษากาย และแสดงออกมาโดยที่เจ้าตัวอาจจะไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ อย่างที่ผมกล่าวไว้บ่อย ๆ ว่าภาษาพูดแสดงความหมายแต่ภาษากายแสดงเจตนา ผมคิดว่าพิธีกรท่านคงไม่ค่อยชอบ หรือ อาจจะรู้สึกไม่ดีนักกับบุคคลที่เขากำลังเอ่ยถึง …ไม่แง่มุมใด ก็แง่มุมหนึ่ง
คุณคิดอย่างไรครับ ?
ขอให้สนุกกับการเรียนรู้
ทพ.อภิชาติ ลีนานุรักษ์ (หมอมด)
บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น สถานการณ์อ้างอิงเพื่อใช้ในการสอนจะคัดเลือกมาจากหลายวงการ เช่น นักการเมือง นักแสดง นักร้อง นักกีฬา นักธุรกิจ และบุคคลสาธารณะที่ปรากฏในสื่อสาธารณะ เช่น ข่าว รายการโทรทัศน์ งานแถลงข่าว สัมภาษณ์ รายการในยูทูป (youtube)ทั้งในและต่างประเทศ การตีความและอธิบายภาษากายทุกอย่างเพื่อการเรียนรู้และแสดงผ่านมุมมองของผม ว่าผมมีความเห็นอย่างไรต่อสถานการณ์เหล่านั้นเท่านั้น และไม่มีจุดประสงค์เพื่อหวังประโยชน์ด้านการเมือง หรือเพื่อละเมิดกับบุคคลใด กลุ่มการเมือง หรือ ศาสนาใด ทั้งสิ้น