สมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร เป็นที่จับตาของคนในสังคมมากขึ้นเมื่อได้ก้าวขึ้นบัลลังก์หลังจากการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร
เป็นที่ทราบกันว่าความนิยมของประชาชนในตัวของท่านจะไม่สูงเมื่อเทียบกับพระมารดา จึงอาจทำให้ท่านมีความตึงเครียด โดยเฉพาะในยุคที่ประชาชนทั่วโลกตั้งคำถามถึงความจำเป็นของการดำรงค์อยู่และอนาคตของราชวงศ์ ว่ายังควรมีอยู่ไหม ? และเจ้าชายจะนำพาราชวงค์ไปในทิศทางใด ?
VDO นี้เป็นบันทึกภาพของเจ้าชายในพระราชพิธีลงนาม (Proclamation ceremony) และมีภาษากายน่าสนใจให้มาเรียนรู้กัน
**ในบทความผมอาจจะไม่ได้ใช้คำราชาศัพท์อย่างเต็มรูปแบบและมีตกหล่นไปบางจึงขออภัยมา ณ ที่นี้ ทั้งนี้ใจความสำคัญจะยังอยู่ครบถ้วน
ในนาที 0:04 และนาที 0:08 หลักจากที่เจ้าชายทรงลงลายเซ็นในเอกสารทางซ้ายมือบนโต๊ะ และหันมองไปทางขวาซึ่งเป็นเอกสารอีกชุดที่ต้องเซ็น ท่านก็แสดงสีหน้าของความรังเกียจ (Disgust)
สีหน้าชนิดนี้สังเกตไม่ยากจากมุมปากที่ตกลงจากกล้ามเนื้อ Depressor labii หรือร่วมกับการคลายตัวของ Mentalis กับ Obicularis oris ทั้งนี้จากมุมกล้องทำให้เห็นได้ไม่ชัดเจน
สีหน้านี้ก็สอดคล้องกับสถานการณ์ ณ เวลานั้นที่เอกสารทั้งสองชุดมีขนาดใหญ่เต็มโต๊ะ มีขวดหมึกวางเกะกะ เมื่อพิจารณาร่วมกับสีหน้าของท่านจึงพอเดาอารมณ์ได้ว่าท่านคงหงุดหงิดกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
นาที 0:13 เมื่อท่านจะลงพระนามในเอกสารด้านขวา ท่านได้มองไปทางขวาและแสดงสีหน้าของความโกรธร่วมกับเกลียดออกมา (Facial expression of anger and disgust) ในจังหวะนี้เห็นชัดและกล้องก็จับภาพได้ชัดเจน โดนสังเกตจากขากรรไกรล่างที่ยื่นมาด้านหน้าจนเห็นฟันล่าง(Mandible moving forward) หัวคิ้วหดเกร็งจาก Depressor glabellae , Corrugator
จังหวะนี้เจ้าชายท่านมีเจตนาส่งสารไปยังข้าราชบริพารว่า “มาเก็บแท่นวางปากกาออกไปหน่อย” แต่ท่านไม่พูดอออกมา แต่เลือกใช้ภาษากายแทนตามลักษณะที่ปรากฎ
โดยทั่วไป ถ้าเราต้องการให้ใครหยิบอะไรให้ เรามักจะบอกด้วยวาจา ใช้มือ หรือ ชี้นิ้วไปที่สิ่งนั้น แต่ใน VDO นี้เราได้เห็นการยื่นคางและแสดงสีหน้าแทนการใช้นิ้ว
สรุป
จากเหตุการณ์นี้ ก็ที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันเยอะโดยเฉพาะในโลกโซเชียลถึงบุคลิกของเจ้าชาย(ที่แตกต่างจากพระมารดา) บ้างก็ว่าท่านเป็นคนเจ้ายศเจ้าอย่าง เจ้ากี้เจ้าการ เอาแต่ใจ หงุดหงิดง่ายแม้แต่กับเรื่องเล็ก ๆ และไม่ค่อยให้เกียรติคนโดยเฉพาะคนที่มีสถานะต่ำกว่า
มีการท้าวความกันถึงเหตุการณ์ในอดีตว่าท่านทำจดหมายหล่นลงในตระกร้าข้างเก้าอี้ที่ตัวเองนั่งและเรียกให้คนใช้หยิบให้ ทั้ง ๆ ที่ก็อยู่ข้างตัวเองเพียงนิดเดียว (รายการ The Daily Show)
ทั้งนี้ถ้ามองในมุมที่เห็นแก่เจ้าชายที่เพิ่งสูญเสียแม่ไป เขาอาจจะอยู่ในสภาวะที่เครียดและมีความทุกข์ระทมจนทำให้หงุดหงิดได้ง่ายกว่าสภาวะปกติ…ก็อาจเป็นได้ และคงไม่ค่อยแฟร์ถ้าใช้เหตุการณ์นี้เพียงเหตุการณ์เดียวมาตัดสินไปถึงบุคลิคภาพของคนหนึ่งคน ในศาสตร์ภาษากายเราก็ไม่ใช้การวิเคราะห์ที่ผิวเผิน หรือ แค่บางเหตุการณ์เพื่อนำมาตัดสินตัวตนใครขนาดนั้น แต่จะใช้การวิเคราะห์ภาษากายเพื่ออธิบายเหตุการณ์ที่ปรากฎตรงหน้าในเวลานั้น วินาทีนั้นเท่านั้น
แต่ไม่ว่าอย่างไร ภาษากายเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงเจตนาและความรู้สึกได้เสมอ และคนภายนอกก็พร้อมจะตัดสินและเหมารวม เพราะธรรมชาติคนเราจะใช้ความรู้สึกเหนือเหตุและผลเสมอ (Danial Kahnman) ภาษากายจึงเป็นสิ่งที่เราจะต้องระวังในยุคที่มีการบันทึกภาพทุกเวลาทุกหนทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็นประชาชนคนธรรมดาแบบเรา นายกรัฐมนตรี หรือ องค์กษัตริย์แห่งสหราชอาณาจักร
คำถามท้ายบทเรียน
ถ้าคุณอยู่ในฐานะเจ้าชาย และอยู่ในบริบทเดียวกับ VDO นี้คุณจะแสดงออกด้วยภาษากาย หรือ คำพูดอย่างไร เพื่อให้ดูดีกว่าที่ปรากฎในเคสนี้
ขอให้สนุกกับการเรียนรู้
ทพ.อภิชาติ ลีนานุรักษ์ (หมอมด)
บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น สถานการณ์อ้างอิงเพื่อใช้ในการสอนจะคัดเลือกมาจากหลายวงการ เช่น นักการเมือง นักแสดง นักร้อง นักกีฬา นักธุรกิจ และบุคคลสาธารณะที่ปรากฏในสื่อสาธารณะ เช่น ข่าว รายการโทรทัศน์ งานแถลงข่าว สัมภาษณ์ รายการในยูทูป (youtube)ทั้งในและต่างประเทศ การตีความและอธิบายภาษากายทุกอย่างเพื่อการเรียนรู้และแสดงผ่านมุมมองของผม ว่าผมมีความเห็นอย่างไรต่อสถานการณ์เหล่านั้นเท่านั้น และไม่มีจุดประสงค์เพื่อหวังประโยชน์ด้านการเมือง หรือเพื่อละเมิดกับบุคคลใด กลุ่มการเมือง หรือ ศาสนาใด ทั้งสิ้น