วีดิโอนี้น่าสนใจมาก เป็นเคสที่ได้เรียนรู้ภาษากายของอาการ “ประหม่า” (Nervous) เป็นเหตุการณ์ที่ลุงพลออกมาชี้แจ้งเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับทนายอนันตชัย และทนายท่านปฎิเสธการเป็นทนายให้ลุงพลซึ่งเหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดไม่นานหลังจากที่ทนายของลุงพลอีกท่านก่อนหน้าประกาศถอนตัวช่วยเหลือ
ถ้าพูดถึงลุงพล ผมคิดว่าใครหลายคนก็น่าจะรู้จักและคุ้นเคยในระดับหนึ่ง ก็เป็นบุคคลหนึ่งที่เป็นผู้ต้องหาตามหมายเรียกของตำรวจโดยระบุว่าลุงพลกระทำความผิดและพัวพันกับการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ทั้งนี้ ณ วันนี้ยังไม่มีคำตัดสินใดๆจากศาล ลุงพลจึงยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์
ภาษากายคือข้อมูลที่สื่อสารออกมาจากมนุษย์ทุกอย่างนอกเหนือจากคำพูดทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว จึงเป็นชุดของข้อมูลสำคัญที่สามารถใช้ตีความว่าส่วนตัวเราจะให้ระดับความความเชื่อถือกับเหตุการณ์ที่ปรากฎอย่างไรเท่านั้น การวิเคราะห์ภาษากายจึงไม่ได้มีไว้เพื่อตัดสินว่าใครโกหกหรือหลอกลวง
ทพ.อภิชาติ ลีนานุรักษ์
นาที 1:10-1:20 ลุงพลใช้มือขวากำหัวไมค์และคลึงเล่นนานตลอดกว่า 10 วินาที
การเล่นกับของที่อยู่ในมือ เป็นกลไกของร่างกายเพื่อปลอบประโลม (Pacifiying behavior : Ref-Joe Narrano) การปลอบประโลม จะเกิดเมื่อเจ้าตัวรู้สึกว่ามีภัย ถูกคุมคาม หรืออยู่ในสภาวะเครียด ร่างกายเราต้องการปลอบตัวเราให้คลายจากอารมณ์ลบ (Negative feelings) ซึ่งสามารถแสดงออกมาเป็นภาษากายได้หลายรูปแบบ เช่น ลูบนิ้ว คลึงมือ ลูบนาฬิกา จัดเน็คไทด์ ซึ่งในเคสนี้เราจะพบว่าเขาเล่นกับของที่อยู่ในมือ
Youtuber ท่านที่กำลังอัดวีดิโอนี้ ได้อธิบายเหตุการณ์ที่มาที่ไป ในนาทีที่ 1:22 ที่ Youtuber พูดว่า “ที่เราแถลงข่าวกัน…ลุงพลให้เกียรติทนายอนันต์ …” จะพบการใช้มือขึ้นมาบีบจมูกคล้ายกับเวลาที่เราต้องการบีบเพื่อไล่น้ำมูก และลักษณะมือก็จะถือว่าปิดปากไปในตัวพร้อมกัน ว่า
การแสดงออกท่าใดท่าหนึ่งหลังจากที่ได้ถูกกระตุ้นด้วยคำพูด ผมขอเรียกว่าสั้นๆง่ายๆว่า “ส่งสัญญาณ” (ในภาษาอังกฤษใช้คำว่า Tik mark behavior ถ้าผมจะแปลตรงตัวคือ พฤติกรรมที่ขีดเส้นใต้เอาไว้ ซึ่งยาวและคงฟังดูแปลกชอบกล) ในจังหวะที่ลุงพลได้ส่งสัญญาณมาด้วยการใช้มือดังที่กล่าวไป
การใช้มือมาสัมผัสบีบจมูก (Nose pulled) จะแตกต่างจากการใช้มือสัมผัสใบหน้าโดยเฉพาะที่ตา จมูก และปาก จะเป็น Alpha upright ซึ่งมักเกิดเมื่ออยู่ในสภาวะที่ตื่นเต้น วิตกกังวลและต้องการปลุกความมั่นใจกลับมา
ลุงพลยังส่งสัญญาณอีกหลายครั้ง ตั้งแต่นาทีที่ 1:22 – 1:58 Youtuber ได้ไลฟ์สดและพูดอธิบายดังนี้
“ลุงพลให้เกียรติทนายอนันต์ ก็ไม่รู้ว่าทนายอนันต์จะรับหรือไม่รับ ลุงพลเลยไม่เอ่ย ขอชี้แจงตรงนี้ด้วยนะครับ ให้ทุกท่านทราบกันว่า มีอยู่คำหนึ่งที่ทนายอนันต์พูดขึ้นมาว่า ลุงพลไม่เอ่ยชื่อ ทั้งที่ข่าววงแหวนรอบนอกเอาไปเล่นกัน ยูทูปเอาไปเล่นกัน เขาพูดขึ้นมาว่าลุงพลไม่ให้เกียรติเขาเพราะไม่เอ่ยชื่อ ขอแถลงว่าการที่ลุงพลไม่เอ่ยชื่อเป็นการให้เกียรติทนาย เพราะเราไม่รู้ว่าทนายอนันต์ชัยจะมาทำงานให้ลุงพลหรือไม่ ถ้าเอ่ยชื่อไป จะมีผลเสียกับท่านไหม นี่คือสิ่งที่ลุงคิด ขอชี้แจ้งแค่นี้ครับ”
นาทีที่ 1:22 – 1:58 มีภาษากายเกิดขึ้นมากมาย (Cluster of body language) ดังนี้
ลุงพลใช้มือซ้ายลูบคิ้วและใบหน้าพร้อมหลับตา (Diminishing eye contact) และถัดมาก็ใช้มือซ้ายข้างเดิมเสยผมไปทางด้านหลัง และเสยวนสวนทางอีกรอบ
การสัมผัสใบหน้าในลักษณะนี้ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณ และน่าสนใจที่มีการหลบตาร่วมด้วย ทำให้มีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น (Significant) การสัมผัสใบหน้าโดยเฉพาะที่ตา จมูก และปาก ในภาษากายมักจะสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ (Psychological discomfort) โดยเฉพาะความตื่นเต้นจากความผิด (Anxiety in deception) ทั้งนี้คำว่าความผิดแปลได้หลายรูปแบบ เช่น รู้สึกผิด เคยทำความผิด กำลังทำความผิด หรือแม้แต่คิดถึงบางอย่างที่ผิด เป็นท่าทางที่สัมพันธ์กับอารมณ์ลบโดยเฉพาะเกี่ยวกับความผิด (Deception)
การเสยผมในลักษณะนี้เป็นภาษากายกลุ่ม Alpha-upright (แปลง่ายๆว่าเพิ่มความมั่นใจ แต่จริงๆผมคิดว่ามันมีรายละเอียดมากกว่าลำพังความมั่นใจ) เพราะจิต ณ เวลานั้นกำลังอยู่ใน beta mode ทำให้สมองจึงสั่งเพื่อปรับอารมณ์และความรู้สึกให้กลับสู่ Alpha (ซึ่งเป็น Baseline และการใช้มืออ้อมไปสัมผัสศีษระส่วนหลังจะแสดง Frustration
หลังจากเสยผม ลุงพลก็ก้มหน้าและจู่ๆก็อยากจัดเสื้อยืดให้เข้าที่เข้าทาง และขยับ/จัดเข็มขัดให้แน่น ภาษากายที่ผิดบริบท ผิดที่ผิดทางและแอบดูน่าขบขันสำหรับใครหลายคนเสมอ ภาษากายอันนี้จะพบได้เสมอในคนที่กำลังรู้สึกประหม่าและต้องการรักษาความมั่นใจของตนเองให้คงกลับมา เป็น Alpha-upright เหมือนกันกับการเสยผม
ในจังหวะที่ Youtuber พูดว่า “เพราะเราไม่รู้ว่าทนายอนันต์ชัยจะมาทำงานให้ลุงพลหรือไม่” ลุงพลก็นำมือขึ้นมาจับจมูกและและใช้วนรอบๆปากคล้ายจะเช็ดปาก ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่ลุงพลแสดงภาษากายเดิมเมื่อมีการเอ่ยถึงชื่อ “ทนายอนันตชัย” ผมถึงว่าเป็นการส่งสัญญาณที่น่าเชื่อถือ เพราะเกิดขึ้นซ้ำสองครั้งในช่วงเวลาสั้นๆเมื่อมีคนเอ่ยชื่อ “ทนายอนันตชัย”
ทั้งนี้การขยี้จมูก หรือ บีบจมูกจะต้องแยกให้ออกระหว่างการคัน และการคัดจมูกจากสภาวะภูมิแพ้
ถัดมาจะพบการใช้นิ้วเพื่อเขี่ยหางตาซ้าย และเขี่ยหัวตาทั้งสองข้าง ในภาษากายจะมีสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับการเกาเพราะอาการคัน คือ เมื่อคนเราเกิดสภาวะที่ตื่นเต้นที่เกี่ยวกับความผิด (Anxiety in Deception) จะมีการเกาบริเวณใบหน้าที่ถี่มากขึ้นจากปกติ และถ้าเดิมเจ้าตัวเกาอยู่แล้วเป็นประจำก็จะมีแนวโน้มที่จะเกาถี่ขึ้นมากขึ้น ทั้งนี้จะต้องแยกให้ออกกับการขยี้ตาเพราะฝุ่นเข้าตา หรือ รู้สึกตาแห้ง และหลังจากเขี่ยตาเราจะแอบเห็น microexpression ของ Disgust ด้วย
สรุป
ตลอดระยะเวลาแค่ครึ่งนาทีลุงพลไม่สามารถยืนนิ่งๆได้เลย แม้สีหน้าเขาจะดูเรียบเฉยและเคร่งขรึม แต่อารมณ์และภาษากายกลับสื่อสารออกมามากมายและพรั่งพรูออกมาแทนคำพูดได้อย่างไม่น่าเชื่อ เคสนี้ถือเป็นบทเรียนที่น่าสนใจมากป็นบทเรียนที่ดีซึ่งล้วนแล้วเป็นภาษากายที่พบบ่อยในคนที่มีอาการประหม่า (Nervous) ตื่นเต้นจากความผิด (Anxiety in Deception)
ขอให้สนุกกับการเรียนรู้
ทพ.อภิชาติ ลีนานุรักษ์ (หมอมด)
บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น สถานการณ์อ้างอิงเพื่อใช้ในการสอนจะคัดเลือกมาจากหลายวงการ เช่น นักการเมือง นักแสดง นักร้อง นักกีฬา นักธุรกิจ และบุคคลสาธารณะที่ปรากฎในสื่อสาธารณะ เช่น ข่าว รายการโทรทัศน์ งานแถลงข่าว สัมภาษณ์ รายการในยูทูป (youtube)ทั้งในและต่างประเทศ การตีความและอธิบายภาษากายทุกอย่างเพื่อการเรียนรู้และแสดงผ่านมุมมองของผม ว่าผมมีความเห็นอย่างไรต่อสถานการณ์เหล่านั้นเท่านั้น และไม่มีจุดประสงค์เพื่อหวังประโยชน์ด้านการเมือง หรือเพื่อละเมิดกับบุคคลใด กลุ่มการเมือง หรือ ศาสนาใด ทั้งสิ้น